คลินิกรักษาฝ้ากระ การรักษาฝ้าและกระมีหลายวิธี โดยทั่วไปแล้วจะต้องใช้หลายวิธีควบคู่กันไปและต้องใช้ความสม่ำเสมอในการดูแลรักษา เนื่องจากทั้งฝ้าและกระเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งมีปัจจัยหลักคือ แสงแดด และปัจจัยอื่น ๆ เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม และการอักเสบของผิวหนัง LANNA
เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยม โดยเป็นหัตถการที่ช่วยนำสารบำรุงหรือตัวยาที่มีฤทธิ์ลดเม็ดสีเข้าสู่ผิวชั้นกลางโดยตรง เพื่อให้เห็นผลรวดเร็วกว่าการทาครีม
ต่อไปนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดเมโสฝ้า กระแบบละเอียด:
1. การฉีดเมโสฝ้า กระ คืออะไร? (Meso Melasma)
การฉีดเมโสฝ้า กระ คือการใช้เข็มขนาดเล็กฉีดสารละลายที่มีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน หรือตัวยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสี (Depigmenting Agents) เข้าไปใน ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) หรือ ผิวชั้นกลาง (Mesoderm) โดยตรง
กลไกการทำงาน:
• ตัวยาจะซึมเข้าสู่เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocytes) ได้ทันทีและมีความเข้มข้นสูงในบริเวณที่ต้องการรักษา
• ตัวยาจะเข้าไป ควบคุมและยับยั้งการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี ทำให้การผลิตเม็ดสีเมลานินลดลง
• ช่วยลดเลือนรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ และปรับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้น
ใช้ในกรณีที่การทายาไม่ได้ผล หรือต้องการผลการรักษาที่รวดเร็วขึ้น:
3.1 เลเซอร์ (Laser and Light Therapy)
• Pico Laser (Picosecond Laser): ได้รับความนิยมมากในการรักษาฝ้าและกระ โดยส่งพลังงานคลื่นสั้นระดับพิโคเซคคันด์ไปทำลายเม็ดสีให้แตกเป็นอนุภาคเล็ก ๆ และขับออกจากร่างกาย มักต้องทำหลายครั้ง
• Q-Switched Laser: ใช้พลังงานเพื่อทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ มักใช้กับกระแดดได้ผลดี แต่การใช้กับฝ้าต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ (Low-fluence) เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนและกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้น
• IPL (Intense Pulsed Light): ใช้คลื่นแสงความเข้มสูง เหมาะกับการรักษากระแดดและจุดด่างดำ แต่ต้องระวังการใช้กับฝ้าเพราะอาจทำให้ฝ้าเข้มขึ้นได้หากตั้งค่าไม่เหมาะสม
• พักผ่อนให้เพียงพอ: ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและปรับสมดุลของฮอร์โมน
• หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น: เช่น ยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมน (เช่น ยาคุมกำเนิด) หรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
• สูตรธรรมชาติ: เช่น การใช้หัวไชเท้า ใบบัวบก หรือมะขามเปียก (มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ) อาจช่วยได้บ้าง แต่ไม่ใช่วิธีการรักษาหลักและต้องระวังการระคายเคือง
– การทำเมโสฝ้า กระ
– การทำทรีทเมนท์
– การทาครีมบำรุง ลดเม็ดสีผิว
– การทำเลเซอร์ทำลายเม็ดสีเมลานิน
– การรับประทานยา
หลังฉีดจะเห็นผลไวกว่าการทาครีม ฝ้า กระจะค่อยๆ จางลง เพราะตัวยาจะเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้หน้าได้เลย อีกทั้งการฉีดเมโสฝ้ายังช่วยระบบหมุนเวียนเลือดให้ทำงานดีขึ้น ปรับสมดุลฮอร์โมน ช่วยลดปัญหาผิวหน้าได้ รวมไปถึงยังเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวที่อ่อนล้าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่มีเวลาดูแลตัวเองหรือคนที่ต้องเผชิญกับมลภาวะที่ทำร้ายผิวอีกด้วย
• เทคนิคการฉีด: แพทย์จะฉีดตัวยาเข้าไปที่ชั้นผิวหนังแท้โดยตรง มักใช้เทคนิคการฉีดแบบ 16 จุด (16-Point Technique) หรือฉีดแบบสะกิดเป็นจุดเล็ก ๆ (Micro-injection) ทั่วบริเวณที่มีปัญหา หรือตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง
• ระยะเวลา: การทำหัตถการใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 20–30 นาที ต่อครั้ง
• ความรู้สึกขณะทำ: อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยจากรอยเข็ม หรือรู้สึกยิบ ๆ เล็กน้อยขณะฉีดตัวยา
1. ห้ามล้างหน้าประมาณ 4-6 ชั่วโมงหลังทำทรีทเม้นท์เสร็จ เพื่อให้ผิวดูดซับตัวยาได้มากขึ้น
2. ไม่ควรนวดผิวหลังการทำ เพราะตัวยาจะสามารถแพร่กระจายเองได้งดออกแดดแรงๆเป็นเวลา 48 ชั่วโมง
3. งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืนใช้ครีมบำรุงที่มีวิตามินผสมได้ แต่ควรงดใช้ครีมจำพวกไวท์เทนนิ่ง
4. สามารถประคบเย็นที่รอยแดง รอยช้ำได้ภายใน 48 ชั่วโมงแรก และสามารถประคบอุ่นได้หลังจากนั้น ตามแพทย์แนะนำ
ดร.นพ.ธีรศักดิ์ แพทยาดิกุล
Dr.Teerasak Pattayadeekul
อาจารย์พิเศษ Dermatology and Regenerative medicine สำนักเวชศาสตรชะลอวัย ม.แม่ฟ้าหลวง / แพทย์ปริญญาเอก สาขา ผิวหนัง ศัลยกรรมผิวหนัง/เลเซอร์/ความงาม
พญ.ทวีพร ตรีประภากร
Dr.Thaweeporn Treepraphakorn
แพทย์สาขาศัลยกรรมความงาม/เลเซอร์/ปลูกผม
แพทย์ อเมริกันบอร์ดปลูกผม (ABHRS)
เมด้าคลินิกมี 4 สาขา ใกล้บ้านท่าน
📍สาขาพัทยา 194/5และ194/6 หมู่9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง , Chon Buri, Thailand, Chon Buri
เวลาทำการ
จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 19.30 น.
เสาร์ – อาทิตย์ 10.30 – 19.30 น.