การลบรอยสัก คือกระบวนการทางการแพทย์หรือความงามที่ใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อลดเลือนหรือกำจัดสีหมึกที่ฝังอยู่ในผิวหนัง ทำให้รอยสักจางลงหรือหายไป โดยทั่วไปการลบรอยสักจะใช้วิธี เลเซอร์ลบรอยสัก เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุดในปัจจุบัน LANNA
• เลเซอร์จะปล่อยพลังงานแสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ ทำให้เม็ดสีหมึกแตกตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ
• จากนั้นร่างกายจะกำจัดเศษเม็ดสีเหล่านี้ตามกระบวนการทางธรรมชาติของระบบภูมิคุ้มกัน
• ต้องทำซ้ำหลายครั้ง เนื่องจากหมึกฝังอยู่หลายชั้นในผิว
Pico Laser (Picosecond Laser) คือเลเซอร์ความเร็วสูงระดับ “พิโควินาที” (หนึ่งล้านล้านวินาที) ที่ปล่อยพลังงานเป็นจังหวะสั้นและแรง ทำให้เม็ดสีที่อยู่ในรอยสักแตกตัวเป็นชิ้นเล็กละเอียดกว่าการยิงเลเซอร์แบบเดิม ร่างกายจึงกำจัดเม็ดสีเหล่านี้ได้ง่ายกว่า จึงเห็นผลชัดและเร็วกว่าการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ Q-Switch แบบเก่า
• ทำลายเม็ดสีอย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงผิวไหม้หรือด่าง
• เจ็บน้อยกว่าเลเซอร์รุ่นก่อน เพราะใช้เวลาสั้นมาก
• ฟื้นตัวไว แทบไม่ต้องพักฟื้น
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณที่ลบเรียบเนียนขึ้น
• ใช้ได้กับหลายสีสัก ทั้งสีเข้ม (ดำ น้ำเงิน) และบางสีอ่อน (เช่น เขียว แดง) ที่ลบยากด้วยวิธีเก่า
• ต้องการลบลายเก่าที่ไม่ชอบหรือไม่ตรงกับความเชื่อ/ไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน
• แก้ไขรอยสักที่ผิดพลาดหรือลายไม่สวย
• เหตุผลทางอาชีพ เช่น งานที่ไม่อนุญาตให้มีรอยสักในตำแหน่งที่เปิดเผย
• ต้องการพื้นที่ผิวสะอาดเพื่อสักลายใหม่ (cover up
• หมึกสักถูกฉีดลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis)
• บางสี เช่น แดง เขียว น้ำเงิน ลบยากกว่าสีดำ เพราะดูดซับพลังงานเลเซอร์ได้น้อย
• อายุของรอยสัก หมึกที่อยู่ในผิวนาน อาจถูกเม็ดเลือดขาวกำจัดไปบางส่วน ทำให้ลบง่ายขึ้น
• ขนาดและความหนาของหมึกก็เป็นตัวแปรสำคัญ
• ผู้ที่ต้องการลบรอยสักทุกขนาด ทุกสี
• ผู้ที่เคยลบสักด้วยเลเซอร์อื่นแล้วไม่จาง
• ผู้ที่ไม่มีปัญหาผิวหนัง เช่น แผลเป็นนูนคีลอยด์
• ผู้ที่ต้องการลบรอยสักอย่างปลอดภัย ไม่เสี่ยงเป็นแผลถาวร
– ทำลายเม็ดสีละเอียดกว่า — โอกาสรอยสักจางสนิทสูงกว่า
– ลดจำนวนครั้งที่ต้องทำ — ส่วนใหญ่ 4–8 ครั้ง ขึ้นกับสี-ขนาด-ความลึกของรอยสัก (เลเซอร์ Q-Switch อาจต้อง 10 ครั้งหรือมากกว่า)
– เจ็บน้อยกว่า เพราะปล่อยพลังงานสั้น ลดความร้อนสะสมในผิว
– ลดความเสี่ยงแผลเป็น/รอยดำ-รอยขาวหลังทำ
– ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน — ผิวเรียบขึ้นกว่าก่อนทำในบางคน
– ใช้ได้กับรอยสักหลากสี เช่น เขียว ฟ้า แดง ที่เลเซอร์เดิมลบยาก
– ฟื้นตัวไว — รอยแดงหรือสะเก็ดเล็ก ๆ หายภายใน 5–7 วัน
การลบรอยสักด้วย Pico Laser แม้ว่าจะลบรอยสักได้ทุกรูปแบบ ทุกสี และทุกขนาด แต่ก็มีข้อควรรู้เกี่ยวกับการลบรอยสักที่ควรรู้ไว้ ดังนี้
1. การลบรอยสักใช้เวลาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาด สี รูปแบบ ระยะเวลาของรอยสัก ตำแหน่งของรอยสัก และระดับความลึกของรอยสัก
2. การลบรอยสักที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น รอยด่างในบริเวณผิวที่สัก หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ
3. การลบรอยสักอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว ผิวแดง หรือผิวไหม้
4. การลบรอยสักด้วยการเลเซอร์ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
5. การลบรอยสักที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการลบรอยสักผิดวิธี อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ลบรอยสักได้
6. หลังจากทำการลบรอยสัก ต้องหมั่นดูแลผิวในบริเวณที่ทำการเลเซอร์ลบรอยสักตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การเตรียมตัวก่อนลบรอยสักด้วยเลเซอร์
7. งดการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการเลเซอร์ลบรอยสักอย่างน้อย 1 สัปดาห์
8. งดกินยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน
9. งดกินวิตามิน หรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น น้ำมันตับปลา วิตามิน A และวิตามิน E
10. งดขัดผิวในบริเวณรอยสักที่ต้องการทำการลบรอยสักด้วยเลเซอร์
1. แพทย์ประเมินสี ขนาด และความลึกของรอยสัก
2. ทายาชาทิ้งไว้ ~30-45 นาที (ขึ้นกับบริเวณ)
3. ยิง Pico Laser ลงบนรอยสัก ใช้เวลาครั้งละ 10-30 นาที
4. หลังทำ อาจมีรอยแดง บวม หรือสะเก็ดเล็กน้อย 3-7 วัน
5. ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง (โดยเฉลี่ย 4-8 ครั้ง ขึ้นกับสี ความลึก อายุรอยสัก) เว้นห่างแต่ละครั้ง 4-8 สัปดาห์
1. หลีกเลี่ยงการแกะเกา อย่าให้แผลโดนน้ำสกปรก
2. ทายาตามแพทย์สั่ง
3. ทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงแดดแรงจนกว่าสะเก็ดจะหลุดหมด
4. ดื่มน้ำ พักผ่อน เพื่อช่วยร่างกายกำจัดเม็ดสี
ลบรอยสักด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่นอกจากการดูแลตัวเองหลังลบรอยสัก อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนควรทราบไว้ก็คือเรื่องของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ซึ่งหลังเลเซอร์อาจเกิดอาการตุ่มน้ำพุพอง หรือคันบริเวณที่เลเซอร์ได้ โดยผลข้างเคียงดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ และสามารถหายได้เอง
อย่างไรก็ตามหากสังเกตเห็นความผิดปกติของผลข้างเคียงว่ามีลักษณะรุนแรงขึ้น หรือมีอาการอื่น ๆ เช่น เกิดการอักเสบ บวมแดง แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ และรับการรักษาที่เหมาะสม
ดร.นพ.ธีรศักดิ์ แพทยาดิกุล
Dr.Teerasak Pattayadeekul
อาจารย์พิเศษ Dermatology and Regenerative medicine สำนักเวชศาสตรชะลอวัย ม.แม่ฟ้าหลวง / แพทย์ปริญญาเอก สาขา ผิวหนัง ศัลยกรรมผิวหนัง/เลเซอร์/ความงาม
พญ.ทวีพร ตรีประภากร
Dr.Thaweeporn Treepraphakorn
แพทย์สาขาศัลยกรรมความงาม/เลเซอร์/ปลูกผม
แพทย์ อเมริกันบอร์ดปลูกผม (ABHRS)
เมด้าคลินิกมี 4 สาขา ใกล้บ้านท่าน
📍สาขาพัทยา 194/5และ194/6 หมู่9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง , Chon Buri, Thailand, Chon Buri
เวลาทำการ
จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 19.30 น.
เสาร์ – อาทิตย์ 10.30 – 19.30 น.